หนังสือ หยดเลือด จารึก และแท่นพิมพ์: ว่าด้วยความรู้/ความจริงของชนชั้นนำสยาม พ.ศ. 2325-2411 โดยทวีศักดิ์ เผือกสม
ทวีศักดิ์ เผือกสม เป็นหนึ่งในนักประวัติศาสตร์ชาวไทยคนแรกๆ ที่จัดการกับ อัศดงคตศึกษา (Occidentalism) ในฐานะที่เป็นความสัมพันธ์เชิง อำนาจ/ความรู้ ที่ซับซ้อน ระหว่างชนชั้นปกครองชาวสยามกับชาติพันธุ์วัฒนธรรมอื่นๆของพวกเขา (รวมทั้งพวกฝรั่ง) ผ่านการวิเคราะห์แบบชาติพรรณวรรณาต่อความรู้ต่างๆที่อยู่ในจารึก หรือที่เรียกว่า University in Stone ที่วัดพระเชตุพนฯ ด้วยการใช้แนวคิดของพวกนักบูรพคดีนิยม
ทวีศักดิ์อธิบายว่าการสร้างภาพตัวแทนของความเป็นอื่น ดังที่แสดงไว้ในโคลงภาพคนต่างภาษา [คือบทกวีเกี่ยวกับกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ] ไม่มีความแตกต่างจากวาทกรรมของความเป็นอื่น (the Other) ที่ถูกผลิตขึ้นโดยชาวตะวันตก โดยตามหลักคำสอนและศีลธรรมของชาวพุทธแล้ว ชาวตะวันตกและชาวมุสลิมซึ่งอยู่ท่ามกลางความเป็นอื่น จะถูกจำแนกให้เป็นพวกป่าเถื่อน มีความแปลกประหลาด เป็นพวกมิจฉาทิฏฐิ เช่นเดียวกับที่ชาวตะวันออกถูกจัดในการศึกษาของซาอิด (Said) ชนชั้นสูงของสยามได้ใช้ตรรกะและค่านิยมที่คล้ายคลึงกันในการตัดสินและกำหนดคนอื่นที่ไม่ใช่ชาวสยามเพื่อ ยืนยันตัวเองว่าเราไม่ได้เป็นพวกป่าเถื่อนหรือไร้อารยะธรรม
ชนชั้นนำสยามสมัยต้นรัตนโกสินทร์แบ่งความรู้ออกเป็นความรู้ทางโลกกับความรู้ทางธรรม. การแบ่งความรู้ดังกล่าวมีผลอย่างมากต่อการสร้างวาทกรรมการรับและการเผชิญหน้ากับความรู้สมัยใหม่จากตะวันตกในช่วงการเปลี่ยนแปลงของสยาม. เพราะเมื่อมิชชันนารีชาวตะวันตกนำความรู้สมัยใหม่และคริสต์ศาสนามาเผยแพร่ ความรู้และเทคโนโลยีสมัยใหม่นั้นถูกชนชั้นนำสยามรับเอามาใช้อย่างไม่ตะขิดตะขวงใจ แต่คริสต์ศาสนากลับถูกปฏิเสธและไม่ได้รับการยอมรับ.
แม้ว่ามิชชันนารีจะพยายามผูกปมให้คริสต์ศาสนากับความรู้และเทคโนโลยีสมัยใหม่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน. แต่ก็ถูกชนชั้นนำสยามจับแยกออกจากกัน โดยให้เหตุผลว่า ความรู้และเทคโนโลยีสมัยใหม่เป็นความรู้ทางโลกย์ ส่วนคริสต์ศาสนาเป็นความรู้ทางจิตวิญญาณ. การรับความรู้และเทคโนโลยีสมัยใหม่เป็นการรับความรู้ทางโลกย์ที่ธรรมดาสามัญ. ส่วนความรู้ในคริสต์ศาสนาซึ่งถูกมองว่าเป็นความรู้ทางจิตวิญญาณนั้น ก็เชื่อว่ามีแต่ความรู้ในพุทธศาสนาเท่านั้นที่เป็นความรู้ที่เที่ยงแท้ และเป็นเหตุผลทำให้คริสต์ศาสนาถูกปฏิเสธ. การรับความรู้ทางโลกย์และปฏิเสธความรู้ทางจิตวิญญาณของตะวันตกทำให้สยามเปลี่ยนจาก สยามเก่า มาสู่ สยามใหม่ โดยในด้านหนึ่งยังคงสืบเนื่องในทางความคิดกับจารีต แต่ในอีกด้านหนึ่งได้เกิดการเปลี่ยนแปลงหันมารับความรู้และเทคโนโลยีสมัยใหม่ของตะวันตกอย่างเข้มข้น.